ผีแฝงร่าง

ผีแฝงร่าง

275
0
แบ่งปัน

*** “ผีแฝงร่าง” ***

ขอสาธุคุณให้มีแต่ความสุขความเจริญ

ร่างทรงปู่ฤษีหลายร่างที่ข้าเคยเจอ

เวลาผ่านร่าง หลังงุ้มงอ แก่หง่อม เดินแทบจะไม่ไหว

สั่นงกๆๆ ติดหมาก ขาดหมากไม่ได้

เห็นหมากแล้วตัวสั่นเทาพร่ำร้อง หมากๆๆ

สภาพอย่างนี้ เอาสมองคิดดูซิ

ตัวเองยังช่วยตัวเองแทบไม่ได้ แล้วปู่แกจะไปช่วยใคร

เออ..ถ้ามาแข็งแรงๆ เต็มไปด้วยปัญญา ก็พอจะปรึกษาธุรกิจอะไรได้อยู่

นี่ดีแต่เป่าดีแต่พ่น ไอ้คนรับก็เขลอะไปทั้งหน้าแหละ

คาดหวังว่า โดนพ่นน้ำลายผสมหมากแล้วตนจะรวย

สมัยหนึ่งที่อำเภอสรร จังหวัดชัยนาท

ข้าเคยไปเยือนบ้านหลังหนึ่ง เขาเชิญไป

ก็ผ่านมาร่วมสิบปีแล้ว เจ้าของบ้านตายไปแล้วป่านนี้

บนบ้านชั้นสองของเขานี่ มีเสาตกน้ำมันอยู่เสาหนึ่ง

เจ้าบ้านพาข้าขึ้นไปดู

เสานั้นมีตะปูขนาดหกนิ้วตรึงอยู่ มีผ้าแพร มาลัยคล้อง

เป็นเสาขนาดห้าหกนิ้วนี่แหละ รื้อบ้านเก่าเขามาสร้าง

แต่เสานั้นเยิ้มไปด้วยน้ำมันไหลซึมออกมา

ข้าเดินขึ้นไปพอถึงชั้นสอง ก็ผัสสะกับกระแสบางอย่างที่รุนแรง

ทำเอาขนหัวลุกชัน เรียกว่าขนพองสยองเกล้ากันเลยทีเดียว

ทุกคนที่ขึ้นมา ต่างก็ขนหัวลุกชัน

เจ้าบ้านก็เผ่นแนบลงข้างล่าง

ข้าก็แกล้งแผ่นตาม

คราวนี้ไม่มีใครกล้าเดิน ต่างห้อแนบลงมาข้างล่างหมด

ข้าเองจะอยู่ทำซากอะไร ไปก่อนเพื่อน

ที่จริงก็แกล้งๆพวกมัน หนุกดี เพราะทุกคนขนหัวลุกชัน

ข้าพาเดินขึ้นไปอีกครั้ง ให้คนดันตูดเจ้าบ้านขึ้นไปด้วย

บ้านตัวเองแท้ๆดันกลัว

เจ้าบ้านกลัว ทุกคนก็วิ่งกันน้ำบานซิ

กระแสพลังงานจากเสากลางบ้านนั้นรุนแรง

ทุกคนสัมผัสได้

ข้าไปยืนแผ่เมตตาเอามือแตะเสา

รับรู้ได้ถึงพลังบางอย่างเคลื่อนเข้าหาตัว

แต่หยุดตรงแถวๆแขนนั่นแหละ

บอกว่าเดี๋ยวเรามาคุยปรึกษาธุรกิจกันใจเย็นๆ

ข้าให้เจ้าบ้านถวายอาหาร ถวายพระที่เจ้าบ้านรักและหวงแหน

ถวายผ้าผืนหนึ่ง กับข้า และนั่งกินกันตรงนั้น

แล้วแผ่เมตตาส่งตรงไปยังพลังงานที่สถิตอยู่ในเสา

ปรากฏว่า ขนหัวลุกตั้งกันเป็นแถว

พอพากันทำสมาธิกำหนดแผ่กุศล

แม่ของเจ้าของบ้านก็นั่งร้องห่มร้องไห้

ไอ้ตัวที่อยู่ในเสา มันออกมาแฝงอยู่กับแม่เจ้าของบ้านซะนี่

นางร้องห่มร้องไห้ ข้าถามอะไรก็ไม่ตอบ

จึงรินน้ำให้แก้วหนึ่ง ถามว่ากินน้ำไหม

แม่เจ้าของบ้านมองแก้วน้ำ หยุดร้องไห้

ตาเหลือกมองไปมองมา

นี่ถ้าเป็นกลางคืน อยู่กันสองต่อสอง

ข้าเองก็คงวิ่งกันน้ำบานเหมือนกัน

ดูมันน่ากลัวน่ะ ขนหัวลุกตั้งด้วย

ที่นั่งอยู่ได้นี่ เพราะพวกมาก

ยังไงก็ช่วยรุมกระตืบผีได้ หลายตีนด้วยนะเออ

ดูท่าทางผีเขาหิวน้ำ แต่บังคับร่างไม่เป็น ได้แต่กรอกตาไปมา เหมือนเด็กเกิดใหม่

สงสัยตายมานานจนลืมการบังคับร่าง

ข้าถามว่าจะกินน้ำใช่ไหม

เขาเหลือกตามอง ข้าจึงให้คนยกแก้วให้

แค่แก้วก็ประคองไม่เป็นอีก ต้องช่วงกันประคอง

นางดื่มน้ำเข้าไปอย่างหิวกระหาย

ครางในลำคอ อืมมมมๆๆๆ

สี่แก้วห้าแก้ว ข้ามองหน้าน้องๆ

กุว่าเดี๋ยวผีก็เยี่ยวแตก อยากดูเยี่ยวผีเหมือนกัน

เจอแก้วที่หก ผีเผลอพูดออกมาว่า “พอแล้ว”

เอะ..ก็พูดได้นี่

แต่พอถาม นางก็เงียบอีก ได้แต่คราง ฮือๆๆ

ข้าถามว่า ดีใจไหม ที่แผ่กุศลจากการที่เจ้าบ้านถวายให้พระ

นางพยักหน้า

ได้รับกระแสแผ่ไปถึงไหม

นางพยักหน้า

สถิตอยู่ในเสานี่เหรอ

นางพยักหน้า

เป็นสาวเหรอ

นางพยักหน้า

เป็นเมียข้าไม๊

นางพยักหน้า

ข้าร้องเห้ย..!!

ไอ้ห่า..พยักหน้าอย่างเดียว

เราคุยกันไม่รู้เรื่อง นางใช้ร่างไม่เป็น

ข้าบอกว่า คุยผ่านโสตได้ไหม

นางพยักหน้า

พวกเราก็เลยนั่งสมาธิ

ข้านั่งซักพักก็ทราบเรื่อง

และหลายคนที่นั่งก็ทราบเรื่อง

คือข้าได้ยินอย่างไร คนที่รับได้ก็ได้ยินอย่างนั่น

มันจึงเป็นการยืนยันได้ ว่าไม่ใช่การโมเมพูดคนเดียว

นางบอกว่านางตายมานาน

ไม่เคยมีใครทำบุญไปให้

นางผูกคอตาย และต้นไม้ที่นางสถิต

ก็โดนมนุษย์มาทำลาย

นางใช้ร่างไม่เป็น

แต่ดีใจที่มีพระมาโปรด

เจ้าบ้านเคยเชิญพระ 9 รูปมาสวดหลายครั้ง

แต่พระเหล่านั่น ศีลไม่ถึง ส่งมาไม่ถึงตัวนาง

นางไม่มีกำลังไปสู่สุคติ

นางขอขอบคุณ

และหวังว่า นางคงจะมาเกิดทันในขณะที่ข้ายังทรงธาตุขันธ์อยู่

นี่..เป็นเรื่องราวกว่าสิบปีก่อน ที่อำเภอสรร จังหวัดชัยนาท

ที่ข้าเคยไปพบเจอมาเกี่ยวกับวิญญาณที่ติดมากับเสาเรือน

ผีเหล่านี้แหละ ที่ทรงๆกัน เป็นแต่เพียงจริตผีมันแตกต่างกัน

ที่สำคัญ ขึ้นอยู่กับเจ้าของร่างด้วย อารมณ์ของแต่ละร่างนี่ ไม่เหมือนกัน

ที่ภูเขามะกูด นครนายก อ.บ้านนา มีสาวน้อยลูกผู้ใหญ่ โดนผีแฝงร่าง

เรื่องทั้งเรื่อง พ่อไปรื้อศาลของเขา ผีเลยเล่นงานแฝงลูกสาวซะ

ตอนแฝงอยู่ในร่างน้อง ก็จะถลึงตา ดูเงียบๆ กลางคืนต้องไปนอนในป่านู่น นอนบ้านไม่ได้

ถามดูมีชื่อเรียกว่า ปู่จ่าง ข้าเคยนัดเตะปากกันมาแล้ว

ปู่จ่างนี่แกแรงจริงๆนะเดี๋ยวนี้เขายกให้เป็นปลัดจ่าง มีศาลไปทั่วนครนายก เขาใหญ่

เจอข้าทีนี่ ท้องฟ้ามืดมัว ลมพัดอื้ออึงกันเลยทีเดียว นัยว่าต้องลองวิทยายุทธกันหน่อย

วันหลังค่อยเล่าให้ฟัง คอปาฏิหาริย์นี่ชอบเลยละ

ตอนปู่จ่างแฝงร่างคนสาวคนน้องนี่ ดูสงบ

แต่พอออกจากสาวคนน้องมาแฝงคนพี่ แกดุร้ายดุเดือด

ข้าจึงเห็นว่า ร่างนี่ ทำให้อารมณ์ผันแปรไปตามอารมณ์ร่างเช่นกัน

ถ้าแฝงร่างที่อารมณ์เย็น การแสดงออกก็ออมาในแนวสงบๆ

แต่ถ้าแฝงร่างที่อารมณ์ร้อนดุร้าย การแสดงอารมณ์ก็ดุร้ายตาม

นี่..แม้จะเป็นพลังงานเป็นผีตัวเดียวกันก็ตาม มันก็เปลี่ยนไปตามเครื่องมือที่ใช้

เราอย่าไปเชื่อเลยพวกร่างทรง มันคือผีทั่วๆไปนี่แหละ

คนทรงมันไม่รู้หรอก มันโง่ มันทึกทักเอาเอง ว่าเป็นเทพนั่นเทพนี่

จริงๆเป็นผีนี่แหละ อยู่ที่ว่าเจ้าผีนั่น สมัยเป็นมนุษย มันเคยนับถือใครหรืออะไร

พอตายไปเป็นวิญญาน ความทรงจำเมื่อผ่านร่าง มันก็เลยคิดว่าตัวมันเองเป็น

มันจะมีประโยชน์อะไรกับใครเล่า แค่แฝงร่างแล้วออกมาร่ายรำ แลบลิ้นปลิ้นตา

ผู้คนเบาปัญญาก็มองว่าเป็นเทพนั่นเทพนี่

แค่คำพูดก็พูดก็ฟังกันไม่รู้เรื่อง มันจะช่วยอะไรใครได้

ดีแต่ให้พร รดน้ำมนต์ พ่นหมาก พร่ำบอกว่าเออ กูให้มึงรวย ให้มึงหาย

ออกท่าออกทางแปลกๆโชว์อภินิหารลูกศิษย์แล้วฟุบจากๆกันไป

ลูกศิษย์ก็ ส้าาาธุ ยกมือท่วมหัว ชาตินี้แสนประเสริฐแล้วชีวิตกู

คนโง่และงมงายนี่ มันก็พูดยากน่ะ

หลงว่าดีว่างาม ไปแตะมัน เดี๋ยวมันก็เตะข้าจุกอีก

ชอบผีก็ได้ผีนั่นแหละท่านเอ๋ย

ใครไม่เคยโดนผีหลอก ก็จงเชื่อร่างทรงแล้วจะสมความปรารถนา

ทรงอยู่ดีๆ ตำรวจยกโขยงมา ร่างทรงวิ่งหนีกันน้ำบาน เชื่อข้าเหอะ..

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 11 มิถุนายน 2561

โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง